ตามหลักการแล้วความพร้อมใช้งานของรุ่นสปอร์ตที่พัฒนาขึ้นจากข้อเสนอจากแบรนด์แม่ SEAT นั้น Cupra จึงมีความตั้งใจที่จะขยายพอร์ตโฟลิโอที่ยังสั้นอยู่ นอกจากนี้ ยังใช้เส้นทางที่เป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการของผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่อยู่แล้ว นั่นคือระบบไฮบริด ซึ่งเป็นขั้นกลางในการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100%
นอกจากนี้ ตามรายงานของ Luca de Meo ซีอีโอของ SEAT ที่ได้เปิดเผยต่อ British Autocar แล้ว รถยนต์ CUV ในอนาคตหรือ Crossover Utility Vehicle จะถูกออกแบบเป็นฐานสำหรับรุ่น Cupra แม้ว่าคาดว่าจะมีประสิทธิภาพน้อยลงและเวอร์ชันที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า แต่สำหรับการขายพร้อมสัญลักษณ์ SEAT
จากแหล่งเดียวกัน ข้อเสนอนี้จะขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์ม MQB ที่รู้จักกันดีของกลุ่มโฟล์คสวาเก้น เมื่อออกสู่ตลาด มันจะกลายเป็น Cupra รุ่นที่สอง ต่อจาก Leon ที่จะวางตลาดด้วยระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริด
![Cupra Atheca เจนีวา 2018](/userfiles/310/14395_1.webp)
CUV ที่มีกำลังต่างๆ มากกว่า 300 แรงม้า
แม้ว่ารายละเอียดเกี่ยวกับ CUV ใหม่นี้ยังหายาก แต่ Matthias Rabe ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการวิจัยและพัฒนาที่ Cupra ได้กล่าวไว้แล้วว่าจะมีการเสนอแบบจำลองนี้ไม่ใช่แบบเดียว แต่มีระดับพลังงานหลายระดับ ซึ่งควรจะแตกต่างกันระหว่าง 200 แรงม้า โดยประมาณ และค่าพลังสูงสุดที่มากกว่า 300 แรงม้าหากค่าเหล่านี้ได้รับการยืนยัน นั่นหมายความว่า CUV ซึ่งยังคงไม่มีชื่อที่รู้จัก จะอวดพลังที่สูงกว่าเช่น Cupra Ateca ที่เป็นที่รู้จักในเจนีวา รุ่นที่ตามข้อมูลที่เปิดเผยไปแล้วไม่น่าจะสามารถดึงเอาเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร ที่มีความจุมากกว่า 300 แรงม้า ที่เป็นรุ่นพื้นฐานอยู่ได้ ค่าที่ถึงกระนั้นก็ควรทำให้คุณสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ใน 5.4 วินาที
แฮทช์แบคไฟฟ้า 100% อยู่ระหว่างการพัฒนาในปี 2020
นอกจาก CUV ปลั๊กอินไฮบริดใหม่นี้แล้ว ข่าวลือยังอ้างถึงความเป็นไปได้ที่ Cupra กำลังทำงานในรุ่นอื่นอยู่แล้ว ไฟฟ้า 100% ซึ่งอาจมาในชื่อ Born, Born-E หรือ E-Born และนั่นก็เพิ่มแหล่งที่มาเดียวกัน สามารถเข้าถึงตลาดในปี 2020 ด้วยขนาดที่ใกล้เคียงกับของลีออง
![โฟล์คสวาเกน ไอดี 2016](/userfiles/310/14395_3.webp)
อันที่จริง โมเดลนี้อาจเป็นที่มาของรถยนต์แฮทช์แบคไฟฟ้า Volkswagen I.D. ซึ่งมีกำหนดเริ่มการผลิตในช่วงปลายปี 2019